รถคันแรกอ่วม! ประกันเล็งโขกเบี้ยดัดหลังชนดะ-สินไหม 70%


          ค่าสินไหมทดแทนประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเริ่มขยับขึ้นตั้งแต่ต้นปี อัตราสินไหมทดแทน หรือลอส เรโช (Loss Ratio) 3 เดือนแรกทะลุ 59.97% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 55.41% และ 58.49% ณ สิ้นปี 2555 ขณะที่ 5 เดือนแรกไต่ระดับ 59.15% แม้ยังอยู่ในระดับไม่สูงแถว 60% แต่ถ้าเจาะเฉพาะกลุ่มโดยเฉพาะรถขนาดเล็กที่ทะลักออก มาเป็นล้านคันจากโครงการรถยนต์ คันแรกที่เป็นรถกลุ่มใหญ่ของตลาด ตัวเลขลอส เรโช พุ่งสูงมากทะลุหลัก 70% ขณะที่ค่าซ่อมมีทิศทางขยับขึ้นตามต้นทุนค่าแรง ค่าอะไหล่


+ รถคันแรกชนดะสินไหมทะลุ 70%
+ ประกันเลิกอั้นครึ่งหลังขึ้นเบี้ย 15%

          แม้บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่จะกัดฟันยอมขาดทุนขายเบี้ยเท่าเดิมแต่มีแนวโน้มครึ่งปีหลังจะอั้นไม่ไหวน่าจะเห็นการขยับขึ้นเบี้ยประกันชั้น 1 รถยนต์ กลุ่มนี้ โดย "พุทธิพงษ์ ด่านบุญสุต" รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัยกล่าวกับ "สยามธุรกิจ" ว่า สินไหม รถเล็กในกลุ่มรถคันแรกทะลุ 70% ไปแล้ว ทำให้อัตราค่าใช้จ่ายรวม (คอมไบน์ เรโช) เกิน 100% ไม่มีกำไรจากการรับประกันภัย

          สาเหตุที่ลอส เรโช รถกลุ่มนี้สูงเนื่อง จากคนขับส่วนใหญ่เป็นมือใหม่ ขาดประสบการณ์ในการขับรถทำให้ความถี่ในการเกิด เหตุมีมาก โดยความถี่ในการเกิดเหตุเป็น ต้นทุนสำคัญในค่าสินไหม อีกทั้งจำนวนรถใหม่ออกมามาก พื้นที่จราจรแออัดโอกาส เกิดเหตุมีมากขึ้นขณะที่สัญญาณจราจร ถนนในบางพื้นที่เป็นอุปสรรคต่อการบังคับ รถของมือใหม่

          ดังนั้น คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเห็นการปรับอัตราเบี้ยชั้น 1 รถเล็กกลุ่มนี้ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 2,500 บาทหรือประมาณ 15% เพราะบริษัทประกันคงไม่สามารถแบกรับลอส เรโช 70% ต่อไปได้ อีกท่ามกลางค่าสินไหมมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกตามความถี่ในการเกิดเหตุและพฤติกรรมของคนขับที่ยังขับรถเหมือนเดิมรวม ไปถึงต้นทุนค่าซ่อมที่เพิ่มขึ้น

          "การรับรู้รายได้จากลอส เรโชคำนวณจากเบี้ยที่ถือเป็นรายได้เต็มปีรถเล็กออกมากลางปีก่อนถึงกลางปีนี้ครบปีพอดีจะเห็นสถิติชัดเจนไตรมาสสามสามารถ ประเมินผลลัพธ์จากการรับประกันได้เป็นโอกาสที่จะคำนวณเบี้ยที่เหมาะสมคงจะมีการปรับเบี้ยกันในไตรมาสสี่ การปรับราคา ไม่ได้ขึ้นทีเดียวจะทยอยทีละขั้นเริ่มจาก 1,000 บาทก่อนหากลอส เรโช ขยับไปถึง 80% คอมไบน์ เรโชแตะ 110% จะขยับขึ้น ไปถึง 2,500 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขคุ้มทุนตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย"

          "พุทธิพงษ์" กล่าวว่า ไม่ใช่รถขนาดเล็กกลุ่มเดียวที่จะมีการปรับอัตราเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น กลุ่มรถขนาดใหญ่อาจ จะต้องขยับขึ้นเช่นกันอีกประมาณ 3,500 บาทหรือ 15% เพราะได้รับผลกระทบจากค่าแรง ค่าอะไหล่เหมือนกันแต่ไม่ชัดเท่ารถเล็ก

          สำหรับไทยเศรษฐกิจประกันภัย "พุทธิพงษ์" กล่าวว่า อยู่ระหว่างทบทวนอัตราเบี้ยประกันภัยรถเล็กอยู่คงจะปรับราคาในไตรมาสสี่ตามตัวเลขที่บอกได้ แต่การปรับราคาต้องดูคู่แข่งในตลาด ด้วยการขยับก่อนหรือหลังมีผลต่อการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเบี้ยประกันรถยนต์ 80% ของเบี้ยทั้งหมดเป็นรถขนาดเล็ก 60%

+ สามัคคีฯ เล็งขึ้นราคา 3 พลัส
+ ทิพยฯ ขอดูตัวเลข/ชี้สินไหมพุ่ง 10%

          "จิรวุฒิ บุญศิริ" กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัยให้ความเห็น "สยามธุรกิจ" ว่า รถเล็กในพอร์ต ของบริษัทมีน้อยประกอบกับเพิ่งปรับขึ้นเบี้ยประกันชั้น 1 ประมาณ 3-5% ยกเว้นบางรุ่นไปเมื่อ 2 เดือนก่อน จึงยังจะไม่มีการปรับขึ้นอีก

          "จริงๆ ลอส เรโช ประกันรถโดยรวมขึ้นมาสูงตั้งแต่ธันวาคม-มกราคมแล้ว แต่การขึ้นเบี้ยก็ไม่ใช่วิธีการลดลอส เรโช ได้โดยตรง เราจึงไปปรับลดค่าใช้จ่ายตัวอื่นๆ ด้วย ตอนนี้ลอส เรโช อยู่ระดับใกล้ๆ 60% แต่ถ้าเป็นชั้น 1 อย่างเดียว 60% กว่าแล้ว"

          นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้นเบี้ยประกันรถประเภท 3พลัส เนื่อง จากอัตราเบี้ยใช้มาตั้งแต่ปี 2549 ยังไม่มีการปรับขึ้น คาดว่าน่าจะเป็นประมาณไตร-มาสสี่หรือต้นปีหน้า โดยจะปรับขึ้นประมาณ 5-10% ซึ่งปัจจุบัน 3พลัสของบริษัทเบี้ยเริ่มต้น 7,000 บาท ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับในตลาดที่จะเริ่มประมาณ 6,500-6,800 บาท แต่เนื่องจากของบริษัทมี โน เคลม โบนัสให้ด้วย ดังนั้นตอนปีแรกๆ ที่ทำเบี้ยอาจจะสูงแต่หากทำไป 4-5 ปี เบี้ยอาจจะถูกลงมาอยู่ที่ 4,000-5,000 บาทเท่านั้น

          ด้าน "สมพร สืบถวิลกุล" กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย กล่าวกับ "สยามธุรกิจ" ว่า บริษัทมีพอร์ตรถคัน แรกไม่มากเพราะไม่เน้นรถกลุ่มนี้มาตั้งแต่ แรกเนื่องจากราคาเบี้ยที่แข่งขันกันอยู่ต่ำเกินไปไม่สามารถเข้าไปรับได้ ส่วนที่มีอยู่ยังบอกไม่ได้ค่าสินไหมสูงมากแค่ไหนต้องขอดูก่อน

          "ถ้าดูภาพรวมรถเล็กในโครงการรถ คันแรกครึ่งปีหลังคงมีการปรับราคาเบี้ยขึ้นแน่มาจากค่าซ่อมส่วนหนึ่ง อีกส่วนมาจากรถกลุ่มนี้ปีแรกไฟแนนซ์ซื้อประกันมาแถมให้กับลูกค้าซึ่งจะได้ราคาพิเศษพอมาปีนี้ลูกค้าจ่ายเองไม่ได้เรตที่ไฟแนนซ์ซื้อ"

          อย่างไรก็ดี "สมพร" กล่าวว่า ครึ่งปีแรกภาพรวมพอร์ตรถยนต์ทั่วไปของบริษัทฯ ลอส เรโช ขยับขึ้น 10% ตั้งแต่ต้นปีเนื่องจากค่าอะไหล่เป็นหลักเพราะรถยนต์ในปัจจุบันเวลาเกิดเหตุถูกออกแบบ มาให้เปลี่ยนอะไหล่เป็นชุดไม่ใช่ซ่อมเฉพาะจุดเหมือนในอดีตทำให้ต้นทุนค่าซ่อม ต่อคันขยับขึ้นมาก คงต้องมาดูสินไหมที่ขยับขึ้นมาจากรถกลุ่มไหนเพราะช่วงหลังรับรถใหญ่เยอะ เช่น รถสาธารณะต่างๆ รถพวกนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยขึ้น ต้องมาดูแล้วค่อยปรับเบี้ยที่รถกลุ่มนั้น

+ ค่าอะไหล่-ค่าแรงตัวแปร
+ ขาใหญ่มีทั้งอั้น-ชิงขึ้นก่อน

          แหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัยแห่ง หนึ่งให้ความเห็น "สยามธุรกิจ" ว่า กำลัง ศึกษาว่าจะปรับเบี้ยรถเล็กเพิ่มขึ้นอย่างไร โดยจากการศึกษาตลาดพบว่า เบี้ยที่จัดเก็บอยู่ไม่พอเมื่อเทียบกับลอส เรโช ที่พุ่งขึ้นถึง 70% ส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันในตลาดเองเพราะรถคันแรกเป็นพอร์ตใหญ่ เมื่ออยากได้งานก็โค้ดเบี้ยต่ำเพื่อให้ได้งาน แต่งานไหนที่ไม่อยากได้ก็ไม่ปรับเบี้ยแข่ง ซึ่งก็ขึ้นกับพอร์ตของแต่ละบริษัท ว่าเป็นอย่างไร

          "ที่ควรต้องปรับคือเบี้ยพื้นฐานน่าจะต้องปรับขึ้น แต่ก็ต้องดูเป็นยี่ห้อ-รุ่น โดย เฉลี่ยน่าจะปรับขึ้นไปประมาณ 10-15% ดูตัวแปรค่าอะไหล่ ค่าแรง ประกอบด้วยว่าเป็นเท่าไหร่ ควรจะปรับขึ้นเท่าไหร่"

          สำหรับการขยับตัวของค่ายใหญ่ อาทิ บมจ.กรุงเทพประกันภัย "พนัส ธีรวณิยช์กุล" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่กล่าวว่า กำลังประเมินอยู่ว่าปรับอัตราเบี้ยรถยนต์ขึ้นหรือไม่หลังจากครึ่งปีแรกลอส เรโช แตะ 60% เนื่องจากค่าซ่อม ค่าอะไหล่ ค่าแรงเพิ่มขึ้นหลังปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ขณะที่อู่ซ่อมเองมีปัญหาไม่เพียงพอกับจำนวนรถที่เข้าซ่อมที่เพิ่มขึ้นมาก แต่การขึ้นราคาจะเป็นทางเลือกสุดท้ายจะพยายามบริหารภายในเช่น คุมประสิทธิภาพสินไหม คัดลูกค้าเน้นรถขนาดกลางขึ้นไปเพื่อลดสินไหม

          ขณะที่เบอร์หนึ่งอย่างบมจ.วิริยะประกันภัยประกาศส่งสัญญาณมาก่อนหน้า นี้แล้วครึ่งปีหลังจะไม่ปรับอัตราเบี้ยกลุ่มรถคันแรกเพิ่มขึ้นแม้สินไหมจะสูงระดับ 70-80% หากสินไหมขยับขึ้นสูงไปถึง 85-88% อาจจะปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ต้นปีหน้า ส่วนบมจ.สินมั่นคงประกันภัยเบอร์สองชิงปรับเบี้ยรถเก๋งเพิ่ม ขึ้นไปแล้ว 5% เมื่อต้นปีที่ผ่านมาหลังจาก ปลายปีก่อน ปรับขึ้น 5% ยังไม่พอสินไหม สูง 70-77%

เครดิตบทความ : insure3plus.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น